
ความเป็นมา
เดิมท้องที่อำเภอทองแสนขันอยู่ในเขตการปกครองของอำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์แต่เนื่องจากสมัยนั้นการคมนาคมไม่สะดวกเช่นปัจจุบันทำให้การติดต่อราชการของประชาชนเป็นไปด้วยความลำบากและเสียเวลาในการเดินทางมากในสมันร้อยเอกศรีรัตน์หริรัก์ เป็นนายอำเภอรอนประมาณปี 2517 ได้ดำริที่จะจัดตั้งใหม่ว่า“ตำบลบ่อทอง”ทำให้อำเภอตรอนมีเขตการปกครอง 7 ตำบล เป็น 8 ตำบล เข้าหลักเกณฑ์ที่จะขอตั้งเป็นกิ่งอำเภอได้
เมื่อปีพ.ศ.2523 สมัยนายพิสิษฐ์ ผโลศิลป์ เป็นนายอำเภอตรอนได้ขอแยกท้องที่ตำบลผักขวงตำบลป่าคายตำบลน้ำพี้และตำบลบ่อทอง จัดตั้งเป็นกิ่งอำเภอใหม่ และกระทรวงมหาดไทยได้มีการประกาศลงวันที่ 13 มิถุนายน 2526 จัดตั้งเป็นกิ่งอำเภอ โดยได้ชื่อว่า “กิ่งอำเภอทองแสนขัน”
ต่อมาเมื่อปีพ.ศ.2533 สมัยนายสุขสันต์ วนะภูติ เป็นปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาเห็นว่ากิ่งอำเภอทองแสนขันเมืองที่กว้างขวางมีชุนชนและชุนุมการค้าหนาแน่นมีสภาพเจริญจึ้นกว่าเดิมมากสมควรยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอเพื่อประโยชน์แก่การปกครองการให้บริการของรัฐเกิดความสะดวกแก่ประชาชนและส่งเสริมท้องที่ให้เจริญยิ่งขึ้นจึงได้ตราพระราชกฤษฎีกายกฐานะกิ่งอำเภอทองแสนขันเป็นอำเภอทองแสนขันตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2533
เหตุผลที่อำเภอตรอนตั้งชื่อกิ่งอำเภอตั้งใหม่ว่า“กิ่งอำเภอทองแสนขัน”สืบเนื่องมาจากตำบลบ่อทองอันเป็นที่ตั้งของที่ว่าการกิ่งอำเภอ มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งมานานและมีราษฎรตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่หนาแน่ที่สุด ชื่อ“บ้านแสนขัน” มีประวัติเล่ามาว่าแต่เดิมนั้นมีชื่อเรียงเสียงใดไม่ปรากฏครั้งหนึ่งมีนายพรานคนหนึ่งเดินทางมาจากรประเทศลาวเข้ามาล่าช้างในพื้นที่แถบบริเวณนี้เข้าใจว่าคงจะมีโขลงช้างเป็นจำนวนมากดังจะเห็นว่ามีหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านแสนขันมีชื่อว่า“บ้านท่าช้าง” สันนิษฐานว่าคงตั้งชื่อตามท่าน้ำที่ช้างลงไปดื่มน้ำ และอาบน้ำเป็นประจำ ประวัติว่าเมื่อนายพรานได้เดินทางมาถึงหมู่บ้านแสนขันก็ทราบว่าจะมีการก่องสร้างวัดพระแท่นศิลาอาสน์เกิดศรัทธาอยากร่วมทำบุญก่อสร้างวัดด้วยจึงเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ชักชวนสมัครพรรคพวกร่วมกันบริจาคทองคำนับได้จำนวนแสนขันและนำทองคำเดินทางมาร่วมก่อสร้างวัดดังกล่าว แต่ครั้นเดินทางมาถึงบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งต่อมาเรียกว่า “บ้านแสนขัน”ได้ทราบว่าวัดพระแนศิลาอาสน์ได้ดำเนินก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงได้นำทองคำที่นำมาทั้งหมดฝังไว้บริเวณหมู่บ้านแห่งนี้เพราะเกรงว่าหากนำทองคำกลับภูมิลำเนาอาจถูกโจรผู้ร้ายปล้นระหว่างทางเอาได้หมู่บ้านดังกล่าวจึงเป็นที่มาของชื่อ“บ้านแสนขัน”จนถึงปัจจุบันและอำเภอตรอนเห็นว่าเป็นนิมิตหมายอันเป็นมงคลแก่กิ่งอำเภอที่ได้ขอจัดตั้งใหม่จึงได้ตั้งชื่อว่า“กิ่งอำเภอทองแสนขัน”และได้รับการยกฐานะเป็นอำเภอทองแสนขันเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2533 จนถึงทุกวันนี้
ข้อมูลทั่วไป
ที่ตั้งอำเภอทองแสนขัน ตั้งอยู่ระหว่างเส้นรุ้ง 6 องศา 7 ลิปดาเหนือ ถึง 6 องศา 40 ลิปดาเหนือ และเส้นแวง 19 องศา องศา 22 ลิปดาตะวันออกถึง 19 องศา 37 ลิปดา ตะวันออก
ที่ตั้งที่ว่าการอำเภอทองแสนขัน ตั้งอยู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข1245สายบ้านแสนขัน-บ้านนาลับแลง หมู่ที่ 9 ตำบลบ่อทอง อยู่ห่างจากตัวจังหวัดอุตรดิตถ์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 34 กิโลเมตร พื้นที่ มีเนื้อที่ประมาณ 803 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 501,875 ไร่
อาณาเขต
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอเมือง และอำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอวัดโบสถ์ และอำเภอชาติตระการ
จังหวัดพิษณุโลก
จังหวัดพิษณุโลก
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์
ลักษณะภูมิประเทศ
- รูปร่างหรือสัณฐาน อำเภอทองแสนขันมีลักาณะรูปร่างคล้าย “ปลาปักเป้า” โดยมีความยาวจากทิศเหนือถึงทิศใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร และความกว้างจากทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตกประมาณ 50 กิโลเมตร
- พื้นที่ ลักษณะพื้นที่โดยทั่วไปของอำเภอทองแสนขันเป็นที่ราบเชิงเขา และมีความลาดเอียงทางด้านทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้โดยมีภูเขาน้อยใหญ่ความสูงเฉลี่ยประมาณ 200-900 ฟุต จากระดับน้ำทะเล
- ลักษณะภูมิอากาศ ฤดูร้อน อากาศร้อนจัดและแห้งแล้ว ฤดูฝน ฝนตกปานกลางทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลมมรสุมที่พัดผ่าน ฤดูผ่าน อากาศหนาวเย็น
- ทรัพยากรธรรมชาติอำเภอทองแสนขันมีทรัพยากรธรรมชาติ
ที่สำคัญ คือ แร่หินอ่อน แร่หินปูน แร่แคลไซต์ แร่ฟอสฟอรัส แร่หินแกรนิต แกร่เหล็ก และแร่แกรไฟด์
การปกครอง

- การบริหารราชการส่วนภูมิภาค มีตำบลบ่อทอง ตำบลผักขวง ตำบลน้ำพี้ และตำบลป่าคาย
- การบริหารส่วนท้องถิ่น มีสุขาภิบาล 1 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 4 แห่ง
- ประชากร ประชากรในเดือนมีนาคม 2541 มีประชากรรวมทั้งสิ้น 33,662 คน เป็นชาย 17,084 คน เป็นหญิง 16,578 คน มีครัวเรือน 7,873 ครัวเรือน
- เศรษฐกิจ อำเภอทองแสนขันมีประชากร ประมาณร้อยละ 85 ประกอบอาชีพเกษตรกรรม จำแนกได้ดังนี้ อาชีพหลักคือ ทำนา ทำไร่อ้อย ทำไร่ถั่วเหลือง ทำไร่น้ำมันสำปะหลัง ทำไร่งา ทำไหร่ข้าวฟาง และหอมแดง อาชีพรอง ได้แก่ เลี้ยงสัตว์ และทำสวย ส่วนอาชีพอื่นๆ ได้แก่ ค้าขาย รับจ้าง ฯลฯ
- การสารธารณสุข มีโรงพยาบาลขนาด สถานีอนามัยประจำตำบล สถานพยาบาล และร้านขายยาประเภท ก.
การศึกษาและการศาสนา

- การศึกษา ในอำเภอทองแสนขันมีสถานศึกษาให้บริการประชาชนในอำเภอ เป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ และโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา
- การศาสนา ประชาชนในอำเภอทองแสนขันจะนับถือศาสนาพุทธเป็นส่วนใหญ่ มีศาสนาสถาน ได้แก่ วัด และสำนักสงฆ์ นอกจากนี้ประชาชนในอำเภอบางส่วนนับถือศาสนาคริสต์
ข้อมูลเฉพาะด้าน

อำเภอทองแสนขันมี 4 ตำบล 43 หมู่บ้าน ประชากรจำนวน 33,662 คน พื้นที่ทั้งหมด 803 ตารางกิโลเมตร หรือ 501,875 ไร่ พื้นที่ถือครองด้านการเกษตรเป็นพื้นที่ทำนา 42,132 ไร่ พื้นที่ปลูกไม้ผล 5,129 ไร่ พื้นที่ปลูกพืชไร่ และพื้นที่ปลูกผัก 460 ไร่
แหล่งน้ำเพื่อการเกษตร

แหล่งน้ำธรรมชาติ มีคลองตรอน มีลำห้วยพี้ ลำห้วยน้ำลอก ลำห้วยดินดำ ลำห้วยน้ำมืด ลำห้วยน้ำหมี และลำห้วยน้ำใส แหล่งน้ำธรรมชาติเหล่านี้ส่วนใหญ่มีสภาพตื้นเขิน และมีน้ำไหลเฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้นแหล่งน้ำจัดสร้างขึ้น สระน้ำ ที่ตำบลบ่อทอง ตำบลผักขวง ตำบลป่าคาย ตำบลน้ำพี้ บ่อบาดาลระดับตื้น(บ่อตอก) ที่ตำบล บ่อทอง ตำบลป่าคาย ตำบลผักขวง ตำบลน้ำพี้ คลองส่งน้ำชลประทาน และแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค
ขอขอบคุณ
รูปภาพ ฮักนะทองแสนขัน
รายละเอียด ข้อมูลเพิ่มเติม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น